รับสร้างบ้านโมเดิร์น จะออกแบบบ้านยังไงให้ไม่ตกเทรนด์ แต่ยังคงความสวยงามและเป็นตัวเองอยู่ นั่นเป็นหนึ่งในภารกิจที่ยากที่สุดของทั้งตัวเจ้าของบ้านและบริษัทรับสร้างบ้านเลยล่ะ เพราะเมื่อพูดถึงคำว่าเทรนด์ ก็ต้องมีทั้งเทรนด์ที่มาใหม่ และเทรนด์ที่เลิกนิยมกันไปแล้ว ดังนั้น การจะสร้างบ้านให้อยู่คู่กับเทรนด์ที่เปลี่ยนไปในแต่ละปี และมีสวยงามแบบ Timeless จึงเป็นเรื่องที่ต้องขบคิดให้ถี่ถ้วนก่อนเสมอ
ซึ่งในวันนี้จะมาบอกเทคนิคง่าย ๆ ในการออกแบบบ้านให้ไม่ตกเทรนด์ รวมถึงเทรนด์การออกแบบที่คาดว่าจะได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องให้คุณได้รู้กัน ใครที่คิดไม่ออกว่าจะออกแบบบ้านยังไง อ่านบทความนี้จบ คุณจะคิดออกแน่นอน!
ออกแบบบ้านกับบริษัท รับสร้างบ้านโมเดิร์น ต้องเตรียมตัวยังไง
อย่างที่กล่าวไปในตอนต้นว่า การจะออกแบบบ้านให้สวยงาม ไม่ตกเทรนด์นั้น เป็นหนึ่งในภารกิจสุดหินที่เจ้าของบ้านและบริษัทรับสร้างบ้านจะต้องเจอ โดยในขั้นตอนนี้ เจ้าของบ้านจะต้องทำงานร่วมกับทีมสถาปนิกในบริษัทรับสร้างบ้านโมเดิร์นที่เลือก รวมถึงต้องมอบความไว้วางใจ ความเชื่อใจ และอิสระในการทำงานให้กับทีมสถาปนิกด้วย แต่แน่นอนว่าก่อนจะถึงขั้นตอนที่ต้องทำงานร่วมกัน เจ้าของบ้านจะต้องเตรียมสิ่งเหล่านี้ให้พร้อมเสียก่อน เพื่อความสะดวก และราบรื่นในการทำงาน
1. ความชอบของตัวเอง
การเตรียมความชอบของตัวเองให้พร้อมก่อนเข้าไปคุยกับสถาปนิก ไม่เพียงแต่จะทำให้คุณได้แบบบ้านที่ต้องการ แต่จะช่วยเพิ่มความสะดวก รวดเร็วในการทำงานให้กับสถาปนิกด้วย อย่างน้อย ๆ การมีข้อมูลเกี่ยวกับขนาดพื้นที่ที่ต้องการ และสไตล์บ้านที่ชอบ ก็จะทำให้สถาปนิกทำงานได้รวดเร็วขึ้น
และจะดีขึ้นไปอีก หากคุณมีการบอกวัสดุ ฟังก์ชัน หรือแม้แต่โทนสีที่ต้องการโดยคร่าวมาให้กับสถาปนิก เพราะจะทำให้สถาปนิกนำข้อมูลเหล่านี้มาออกแบบบ้านให้ตรงกับความชอบของคุณได้มากที่สุด โดยไม่ต้องมีการแก้ไขบ่อย ถือเป็นการประหยัดเวลาทั้งของเจ้าของบ้านเอง ตัวสถาปนิกเอง และทีมงานที่จะต้องดำเนินการสร้างบ้านต่อด้วย
2. งบประมาณสำคัญไม่แพ้ความต้องการ
นอกจากการเตรียมความชอบของตัวเองให้พร้อมก่อนเข้าไปคุยกับสถาปนิกจะมีความสำคัญแล้ว การเตรียมความพร้อมเรื่องงบประมาณก็เป็นเรื่องที่สำคัญไม่แพ้กัน เพราะนอกจากสถาปนิกจะนำข้อมูลความต้องการของคุณมาใช้ในการออกแบบแล้ว ยังต้องนำงบประมาณของคุณมาพิจารณาในการออกแบบ และเลือกวัสดุอีกด้วย
ลองคิดดูสิว่า หากคุณไม่ได้บอกงบประมาณที่เตรียมไว้ให้กับสถาปนิกเลย และให้สถาปนิกออกแบบได้อย่างเต็มที่ แต่แบบบ้าน และวัสดุต่าง ๆ กลับเกินงบประมาณที่คุณตั้งไว้ แน่นอนว่า สถาปนิกก็จะต้องไปทำการออกแบบใหม่อีกครั้ง เพื่อให้ตรงกับงบประมาณของคุณอยู่ดี ดังนั้น หากคุณไม่อยากเสียเวลา และในบางครั้งอาจจะต้องเสียค่าใช้จ่ายในการแก้แบบเพิ่มขึ้น (กรณีแก้แบบเกินจำนวนครั้งที่ตกลงกันไว้) ก็อย่าลืมบอกงบประมาณคร่าว ๆ ให้กับสถาปนิกก่อนออกแบบเสมอ
เทรนด์การสร้างบ้านที่บริษัท รับสร้างบ้านโมเดิร์น แนะนำ
ได้ทราบสิ่งที่ต้องเตรียมก่อนเริ่มขั้นตอนการออกแบบบ้านกันไปแล้ว หากคุณเตรียมตัวให้พร้อม แน่นอนว่าขั้นตอนการออกแบบของคุณก็จะสะดวก และราบรื่นอย่างแน่นอน อันดับต่อไป Royal House ก็จะพาไปดูเทรนด์การสร้างบ้านที่นอกจากจะสามารถอยู่คู่กับเทรนด์ที่เปลี่ยนไปทุกปีได้แล้ว ยังให้ประโยชน์สูงสุดกับเจ้าของบ้านอีกด้วย จะมีอะไรบ้าง ไปดูกันต่อเลย
1. เทรนด์บ้าน Smart Living
เทรนด์ Smart Living เป็นเทรนด์การสร้างบ้านที่ไม่มีตกยุคอย่างแน่นอน เพราะเทรนด์นี้ จะเป็นการนำเทคโนโลยีมาผสมผสานกับการใช้ชีวิตประจำวันด้วยอุปกรณ์ Smart Home ต่าง ๆ ที่เชื่อมต่อกับแอปพลิเคชันบนสมาร์ตโฟน ซึ่งจะมอบความสะดวกสบายในการใช้ชีวิตประจำวันให้กับเจ้าของบ้านมากขึ้น เช่น การตั้งเวลาเปิด-ปิดไฟหรือเครื่องปรับอากาศอัตโนมัติ การตรวจสอบกล้องวงจรปิดแบบเรียลไทม์ หรือแม้แต่การเปิด-ปิดปลั๊กไฟ เรียกได้ว่า นอกจากเทรนด์ Smart Living จะมอบความสะดวกสบายให้กับเจ้าของบ้านแล้ว ยังทำให้บ้านของคุณดูล้ำสมัยมากขึ้นได้ด้วย
2. เทรนด์ ECO Living
เทรนด์การแต่งบ้านแบบ ECO Living จะเน้นการให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม และลดการใช้พลังงานไฟฟ้าที่ก่อให้เกิดมลพิษทางอากาศได้ โดยการออกแบบบ้านจะเน้นเรื่องตำแหน่งของประตู หน้าต่าง ให้สอดคล้องกับทิศทางลมที่ช่วยให้อากาศภายในบ้านถ่ายเทได้มากขึ้น รวมถึงทิศทางของแสงแดดที่ช่วยเพิ่มความสว่างภายในบ้าน นอกจากนี้ เฟอร์นิเจอร์ส่วนใหญ่ ก็จะเน้นโทนสีที่ดูเป็นธรรมชาติ ให้ความรู้สึกผ่อนคลายอย่างสีน้ำตาล สีขาว สีครีม และที่สำคัญคือ เพิ่มพื้นที่ปลูกต้นไม้ทั้งภายในและภายนอกบ้าน เพื่อสร้างบรรยากาศของธรรมชาติที่โอบล้อมอยู่รอบตัว
3. เทรนด์ Multi-Function
เพราะในปัจจุบันนี้ คนส่วนใหญ่เริ่มใช้ชีวิตอยู่ในบ้านมากขึ้น จากการปรับเปลี่ยนการทำงานที่ออฟฟิศเป็นการ Work From Home ทำให้การสร้างบ้านสักหลัง ไม่ได้เป็นการสร้างเพื่อการอยู่อาศัยหรือพักผ่อนเพียงอย่างเดียว แต่ยังต้องคำนึงถึงความสะดวกสบายในการทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้หลากหลายยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็น พื้นที่สำหรับทำงาน ออกกำลังกาย เรียนออนไลน์ หรือแม้แต่การไลฟ์ขายของออนไลน์ ทำให้เทรนด์ Multi-Function ที่เน้นการเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์น้อยชิ้น แต่มีฟังก์ชันการใช้งานที่หลากหลาย และยืดหยุ่นในชิ้นเดียว ไม่ว่าจะเป็น เตียงที่มีช่องสำหรับเก็บของ โต๊ะทำงานปรับระดับ โซฟาที่ปรับเป็นเตียงนอนได้ ซึ่งเฟอร์นิเจอร์มัลติฟังก์ชันเหล่านี้จะสามารถเพิ่มพื้นที่ภายในบ้านได้มากขึ้น รวมถึงเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งานได้อย่างเต็มที่
4. เทรนด์ Open Plan
หากเรามองบ้านที่มีอายุการสร้างมายาวนาน จะเห็นได้ชัดเจนว่า สิ่งที่ทุกบ้านมีเหมือนกันก็คือ การจัดพื้นที่บ้านให้เป็นบล็อกหรือห้องอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งการจัดพื้นที่แบบนี้ จะทำให้บ้านดูแคบ อึดอัด และไม่สะดวกต่อการต่อเติมในภายหลังได้ ทำให้เทรนด์ในปัจจุบัน จะเน้นการออกแบบแบบ Open Plan ที่เน้นให้มีพื้นที่ว่างภายในบ้านให้มากที่สุด แต่หากต้องการให้พื้นที่เป็นสัดส่วนหรือเพิ่มความเป็นส่วนตัว ก็สามารถกั้นพื้นที่ด้วยวัสดุหรือเฟอร์นิเจอร์ที่สามารถใช้งานหรือพับเก็บได้ และไม่ทำให้พื้นที่นั้นดูคับแคบ เช่น ฉากกั้นห้อง ชั้นหนังสือ ผ้าม่าน กระจกใส หรือบานเฟี้ยม เป็นต้น ซึ่งนอกจากการออกแบบ Open Plan จะช่วยให้ความโปร่งโล่ง สบายตากับพื้นที่บริเวณนั้นแล้ว หากต้องการต่อเติมในอนาคตก็จะสะดวกสบายมากกว่าด้วย
อ่านมาถึงตรงนี้ เชื่อว่าหลายคนคงจะได้ความรู้และไอเดียในการสร้างบ้านอยู่คู่กับเทรนด์ที่เปลี่ยนไปทุกปีกันบ้างแล้ว ทั้งนี้ ก่อนที่คุณจะเริ่มต้นออกแบบบ้าน ก็อย่าลืมหาไอเดียหรือแบบบ้านที่ต้องการมาให้สถาปนิกดู เพื่อความราบรื่นในการออกแบบ และเพื่อให้ตรงกับความต้องการของคุณมากที่สุด
รับสร้างบ้านโมเดิร์น ออกแบบยังไงให้ไม่ตกเทรนด์ อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://luxuryhomesdesigns.com/