สินค้าโรงงาน โปรโมชั่น โพสฟรี ลงประกาสฟรี
หมวดหมู่ทั่วไป => เว็บฟรียอดนิยม โพสโฆษณา ประกาศขายของ ประกาศหางาน => ข้อความที่เริ่มโดย: siritidaphon ที่ วันที่ 9 ธันวาคม 2025, 13:50:54 น.
-
วิธีการให้อาหารสายยางที่นิยมในปัจจุบัน (https://dseelin.co.th/)
วิธีการให้อาหารทางสายยางที่นิยมในปัจจุบัน สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 วิธีหลัก ตามลักษณะการบริหารอาหารเข้าสู่ร่างกายของผู้ป่วยค่ะ โดยการเลือกใช้วิธีใดจะขึ้นอยู่กับสภาวะทางการแพทย์ ความทนทานของลำไส้ และดุลยพินิจของทีมแพทย์และพยาบาล
1. 💧 วิธีให้อาหารเป็นรอบ (Intermittent or Bolus Feeding)
วิธีนี้เป็นการให้อาหารในปริมาณมากต่อครั้ง คล้ายกับการรับประทานอาหารมื้อหลักของเรา โดยมีช่วงหยุดพักระหว่างมื้อ
ลักษณะ: ให้อาหารปริมาณมาก (เช่น 200–400 มล.) ภายในระยะเวลาสั้น ๆ (15–30 นาที) ซ้ำ ๆ วันละหลายครั้ง (เช่น ทุก 4–6 ชั่วโมง)
อุปกรณ์: มักใช้ กระบอกฉีดยาขนาดใหญ่ (Syringe) หรือ ถุงอาหาร/ชุดให้น้ำเกลือ แล้วปล่อยให้อาหารไหลลงตาม แรงโน้มถ่วง (Bolus)
ข้อดี:
ง่ายและสะดวก: ผู้ป่วยและผู้ดูแลสามารถปฏิบัติได้เองที่บ้าน ไม่ต้องใช้ปั๊ม
ใกล้เคียงธรรมชาติ: มีช่วงที่กระเพาะอาหารว่าง ทำให้ใกล้เคียงกับรูปแบบการรับประทานอาหารปกติ
อิสระมากขึ้น: ผู้ป่วยมีอิสระในการเคลื่อนไหวในช่วงที่ไม่ได้ให้อาหาร
ข้อเสีย:
เสี่ยงท้องอืด/คลื่นไส้สูง: หากให้อาหารเร็วหรือปริมาณมากเกินไป อาจทำให้ท้องอืด คลื่นไส้ หรือเกิดอาการไหลย้อนกลับได้ง่าย
2. 🕰️ วิธีให้อาหารแบบต่อเนื่อง (Continuous Feeding)
วิธีนี้เป็นการให้อาหารในปริมาณน้อย ๆ อย่างช้า ๆ ตลอดระยะเวลาที่กำหนด โดยมักใช้เครื่องมือช่วย
ลักษณะ: ให้อาหารใน อัตราคงที่ ตลอด 24 ชั่วโมง หรือตลอดช่วงเวลาที่กำหนด (เช่น 18 ชั่วโมง)
อุปกรณ์: มักใช้ เครื่องปั๊มอาหาร (Feeding Pump) ควบคุมอัตราการไหลอย่างแม่นยำ
ข้อดี:
ทนต่ออาหารได้ดีกว่า: ลดความเสี่ยงของภาวะท้องอืด ท้องเสีย และอาหารค้างในกระเพาะอาหาร
เหมาะสำหรับผู้ป่วยวิกฤต/มีปัญหาการย่อย: เหมาะกับผู้ป่วยที่ยังไม่รู้สึกตัว หรือผู้ที่มีปัญหาการดูดซึมอาหาร หรือผู้ที่ได้รับอาหารทางสายที่สอดลงไปถึงลำไส้เล็ก (Jejunal Tube)
ข้อเสีย:
ต้องใช้ปั๊ม: มีค่าใช้จ่ายและต้องพึ่งพาอุปกรณ์
จำกัดการเคลื่อนไหว: ผู้ป่วยต้องต่อสายยางกับปั๊มอยู่ตลอดเวลา
สรุป
โดยทั่วไปในผู้ป่วยที่อาการคงที่และให้อาหารทางสาย NG Tube ที่บ้าน มักจะใช้ วิธีให้อาหารเป็นรอบ (Bolus Method) ด้วยแรงโน้มถ่วง เนื่องจากความสะดวกและค่าใช้จ่ายที่ต่ำกว่าค่ะ